Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
Baht tahun 2026: ke mana arahnya? Tren baru yang harus diketahui oleh investor
เมื่อมองไปยังปี 2566 ค่าเงินบาทจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลตอบแทนการลงทุนของคุณอย่างมาก บทความนี้จะวิเคราะห์แนวโน้มค่าเงินบาทในแต่ละไตรมาสของปีหน้า พร้อมเรียบเรียงมุมมองทั่วโลกที่มีต่อเศรษฐกิจไทย เพื่อให้คุณเลือกสินทรัพย์ลงทุนได้อย่างชาญฉลาด
ภาพรวมค่าเงินบาทในปี 2025: ฐานต่อยสำหรับปี 2566
ข้อมูลจากแผนภูมิ THB/USD แสดงว่าตั้งแต่เมษายนถึงกรกฎาคม 2025 ค่าเงินบาทมีการเคลื่อนไหวขาขึ้นอย่างเด่นชัด โดยอัตราแลกเปลี่ยน THB/USD ปรับตัวจาก 0.0290 ขึ้นไปถึง 0.0314 ระดับนี้สะท้อนว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น และอาจเกิดจากผลประกอบการเศรษฐกิจไทยที่คืนตัว รวมทั้งการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะมุ่งไปสู่การผ่อนคลายนโยบายการเงิน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่สิงหาคมเข้ามา สถานการณ์เปลี่ยนไป ค่าเงินบาทเริ่มทรงตัวและปรับอ่อนลงกลับมาเหลือ 0.0300 ตลาดอยู่ในช่วงสับสน โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 0.0310-0.0312 และแนวรับที่ 0.0300 สัญญาณว่ามีความไม่แน่นอนทั่วโลกเพิ่มขึ้น
แนวโน้มค่าเงินบาทแบ่งตามไตรมาส ปี 2566
บนพื้นฐานการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ ค่าเงินบาทในปี 2566 คาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงเวลา
ไตรมาส 1 - ความท้อใจระยะต้นปี
ต้นปี 2566 เศรษฐกิจไทยยังไม่ขึ้นสูงขึ้น โดย GDP คาดว่าจะเติบโตเพียง 1.8% เท่านั้น ภาค ส่งออกยังคงรับแรงกดดัน จากข้อจำกัดด้านภาษีการค้าและความกระวนกระวายของตลาดโลก ขณะนี้ค่าเงินบาทอยู่ในกรอบ 32-33 บาทต่อดอลลาร์
แม้ว่าจะเป็นช่วงสีเทา แต่รัฐบาลใหม่กำลังนำร่องนโยบาย “บิ๊กวิน” เพื่อกระตุ้นพลังเศรษฐกิจ บางการตัดสินใจนี้อาจกอกำเนิดความเชื่อมั่นขึ้นมาได้ นักลงทุนควรใช้ช่วงนี้หากระจายพอร์ตและคิดถึงการป้องกันความเสี่ยง
ไตรมาส 2 - เครื่องหมายไฟเขียว
กลางปี 2566 สถานการณ์เริ่มสดใส นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทยอยมีผล การบริโภคในประเทศเริ่มกลับมาทำให้ตลาดหุ้นไทยแกว่งในกรอบ 1,350-1,400 จุด เมื่อ P/E Ratio อยู่ที่ 14.5 เท่า
นักลงทุนต่างชาติกลับมาสนใจหุ้นกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว และจัดการอสังหาริมทรัพย์จากเม็ดเงินภาครัฐ ค่าเงินบาทเริ่มจะแข็งตัวกลับเข้ามาในกรอบ 31.5-32.5 บาท ระยะนี้เหมาะสำหรับการขยายพอร์ตไปยังตราสารหนี้ระยะสั้นและหุ้นปันผลสูง
ไตรมาส 3 - บทบาทของดอลลาร์อ่อนลง
ครึ่งปีหลังมีการไหลเข้าของเงินทุนไปยังตลาดเกิดใหม่ทั่วเอเชีย เนื่องจาก Fed เริ่มลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ค่าเงินบาทจะเหนือกว่า ประมาณ 31 บาท และนักลงทุนสากลเพิ่มเดิมพันในตลาดทุนเอเชีย
กลุ่มสินทรัพย์เช่น REITs และโครงสร้างพื้นฐานได้รับความชื่นชม เพราะให้เงินปันผลเฉลี่ย 8-9% ภายในระยะนี้ควรสร้างโปรแกรม Core Portfolio ที่มั่นคงโดยผสมสินทรัพย์โลกกับตราสารหนี้คุณภาพดี
ไตรมาส 4 - ความไม่แน่นอนกลับมา
ปลายปี 2566 เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแต่ยังไม่เร็ว พึ่งพาเม็ดเงินรัฐบาลและกระแสท่องเที่ยว ตลาดการเงินโลกคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยรอบใหม่จากหลายประเทศ ตลาดหุ้นไทยทำการค้าในกรอบจำกัด
นักลงทุนควรคอยดูการจัดการงบประมาณของรัฐบาลและเน้นไปยังหุ้นปันผลสูงกับตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อรักษาผลตอบแทนและลดความผันผวน
ค่าเงินบาทแข็งค่าหรืออ่อนค่า: ผลต่อเศรษฐกิจไทย
ค่าเงินบาทไม่ใช่เพียงตัวเลขในหนึ่งหน้าจอ มันส่งผลกระทบจริงไปยังธุรกิจและครอบครัวไทยอย่างมากมาย
เมื่อเงินบาทแข็งค่า
ผู้ส่งออก เช่น บริษัทอิเล็กทรอนิกส์หรือผู้ผลิตอาหารแปรรูป จะต้องเผชิญกับรายได้ลดลง เพราะเงินดอลลาร์ที่ได้มานั้นแปลงกลับเป็นบาทได้น้อยลง ภาคท่องเที่ยวก็รับผลกระทบ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องเสียเงินมากขึ้นเพื่อท่องเที่ยวไทย
อย่างไรก็ตาม บริษัทนำเข้าและผู้บริโภคได้รับประโยชน์ เพราะสินค้านำเข้ามีราคาถูกลง และนักลงทุนที่มีแผนแลกเงินเพื่อลงทุนต่างประเทศจะได้เงินสกุลต่างประเทศมากขึ้น
เมื่อเงินบาทอ่อนค่า
เขตตรงข้าม ผู้ส่งออกหนาใจขึ้นมา เพราะรายได้ดอลลาร์แปลงกลับมาเป็นบาทได้มากขึ้น สินค้าไทยแข่งราคาดีขึ้นในตลาดโลก ท่องเที่ยวจากต่างประเทศกลับมาแพงขึ้น
แต่บริษัทนำเข้าต้องจ่ายเงินเพิ่มหากต้องสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ การกู้ยืมต่างประเทศยังแพงขึ้น และค่าใช้จ่ายการศึกษาต่อ หรือการท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น
มุมมองทั่วโลกต่อประเทศไทยในปี 2566
สหรัฐฯ ยังดูดหนึ่ง
เศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดจะเติบโตที่ 2.0% แต่การนำเข้ายังคงสำคัญจากความต้องการของผู้บริโภค ดีสำหรับผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ข้อเสี่ยงอยู่ที่หากสหรัฐฯ ยังคงอัตราดอกเบี้ยสูง อาจดูดเงินทุนออกจากตลาดเกิดใหม่
ยุโรปฟื้นตัวช้าๆ
GDP ยูโรโซน คาดว่าจะเติบโต 1.4-1.5% ซึ่งช่วยกระตุ้นความต้องการสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร และยางพาราของไทย ค่าเงินยูโรที่มีเสถียรภาพอาจเป็นโอกาสเพื่อดึงนักท่องเที่ยวยุโรปมายังประเทศไทย
จีนยังส่งสัญญาณบวก
การเติบโตของ GDP จีนประมาณ 5.4% ส่งผลดีต่อการค้าเอเชีย ไทยได้ประโยชน์จากความต้องการสินค้าขั้นกลางและสินค้าเกษตร แม้จะมีความเสี่ยงจากการชะลอของอสังหาริมทรัพย์จีน
ญี่ปุ่น: เงินเยนอ่อน = ท่องเที่ยว
แม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเติบโตเพียง 1.2% แต่เงินเยนอ่อนทำให้การท่องเที่ยวขาออกเพิ่มขึ้น ดีสำหรับธุรกิจบริการและค้าปลีกไทย
อินเดีย: คู่ค้าใหม่
การเติบโต GDP อินเดียเกิน 7% เปิดโอกาสใหม่ สำหรับการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอาหารแปรรูปไทย
ทำอย่างไรเมื่อเงินบาทอ่อนค่า: USD vs EUR
ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD)
เมื่อบาทอ่อนลง ดอลลาร์แข็งขึ้น จำเป็นต้องใช้บาทมากขึ้นเพื่อซื้อดอลลาร์หนึ่งดอลลาร์ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนย้ายเงินเข้าสหรัฐฯ เพราะอัตราดอกเบี้ยสูงหรือความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ
สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ แพงขึ้น แต่ผู้ส่งออกไทยได้เปรียบ สินค้าถูกลง อีกทั้ง นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันเดินทางมาประเทศไทยในอัตราที่ดีขึ้น
ยูโรป (EUR)
เมื่อเงินบาทอ่อน ยูโรแข็งค่าเช่นกัน ผู้นำเข้าและนักท่องเที่ยวไทยไปยุโรปต้องจ่ายมากขึ้น สินค้านำเข้าจากยุโรป เช่น เครื่องจักรและยานพาหนะ แพงขึ้น
อีกด้านหนึ่ง สินค้าส่งออกไทยไปยุโรป เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาหารทะเล ได้ประโยชน์จากราคา
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุนในปี 2566
พิจารณาค่าเงินบาทเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ
ทิศทางค่าเงินบาทมีผลโดยตรงต่อราคาหุ้นและผลตอบแทน คุณต้องดูว่าหุ้นไหนจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงค่าเงิน
หุ้นส่งออก vs หุ้นนำเข้า
หุ้นที่ชอบเงินบาทแข็ง: บริษัทนำเข้า พลังงาน โรงไฟฟ้า ขนส่ง และค้าปลีก ต้นทุนลดลง
หุ้นที่ชอบเงินบาทอ่อน: ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร ยานยนต์ การแปลงรายได้เพิ่มขึ้น
ทองคำเป็นกำแพงป้องกัน
ที่เก็บทองคำ 10% ของพอร์ต รักษาให้ปลอดภัยจากความผันผวน แม้เงินบาทแข็งจะทำให้ราคาทองปรับขึ้นช้า
ถือเงินดอลลาร์เพื่อกระจายความเสี่ยง
เงินสด USD ยังเหมาะสำหรับการป้องกันความเสี่ยงระยะสั้นจากความผันผวนตลาด คุณสามารถเลือกลงทุนผ่านกองทุนตลาดเงินต่างประเทศหรือสินทรัพย์ดิจิทัล
สรุป: ปี 2566 ของผู้ลงทุน
ปี 2566 จะเป็นปีที่ค่าเงินบาทเล่นบทบาทสำคัญ จากความไม่แน่นอนทั่วโลกไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงิน นักลงทุนควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย ติดตามการพัฒนาเศรษฐกิจไทยและโลก และปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวค่าเงิน
เมื่อเงินบาทแข็ง เลือกหุ้นนำเข้า เมื่อเงินบาทอ่อน เลือกหุ้นส่งออก การรู้และการเข้าใจว่าค่าเงินสอบแปลงสภาวะตลาดอย่างไร จะช่วยให้คุณก้าวหน้า