Esta página pode conter conteúdos de terceiros, que são fornecidos apenas para fins informativos (sem representações/garantias) e não devem ser considerados como uma aprovação dos seus pontos de vista pela Gate, nem como aconselhamento financeiro ou profissional. Consulte a Declaração de exoneração de responsabilidade para obter mais informações.
Yield: Compreensão básica para investidores Como calcular corretamente
ในการลงทุน ผู้ลงทุนจำเป็นต้องเข้าใจแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการวัดผลตอบแทน หนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ที่สำคัญที่สุดคือ Yield หรือ “อัตราผลตอบแทน” ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่ช่วยให้ผู้ลงทุนประเมินประสิทธิภาพของการลงทุนได้อย่างแม่นยำ บทความนี้จะนำเสนอเนื้อหาที่ครอบคลุม เพื่อให้ผู้เริ่มต้นในวงการลงทุนสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาด
ปัจจัยใดที่ส่งผลต่อ Yield?
ก่อนที่จะเข้าใจวิธีคำนวณ Yield สิ่งสำคัญคือการรู้ว่าปัจจัยใดบ้างที่มีอิทธิพลต่ออัตราผลตอบแทนนี้
ลักษณะของการลงทุน
ประเภทสินทรัพย์ที่เลือกมีผลกระทบโดยตรงต่อ Yield ที่คาดหวัง ตราสารหนี้เช่น พันธบัตรมักให้ผลตอบแทนที่เสถียรและต่ำกว่า ในขณะที่หุ้นนำเสนอโอกาสผลตอบแทนที่มากกว่า แต่พร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วย
สถานการณ์ตลาด
เงื่อนไขทางเศรษฐกิจและการเงินมีอิทธิพลอย่างกว้างขวาง ปัจจัยเช่น นโยบายอัตราดอกเบี้ยจากสถาบันการเงิน สถานะของเศรษฐกิจ และความเสี่ยงทางการเมืองสามารถเปลี่ยนแปลง Yield ได้อย่างมากมาย
ระยะเวลาในการลงทุน
ระยะเวลาที่ยาวนานมักให้โอกาสแก่ผู้ลงทุนที่จะเห็นผลตอบแทนที่มากขึ้น ผลตอบแทนแบบทบต้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Yield เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงจำเป็นต้องมี Yield ที่สูงเพื่อชดเชยความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น นี่คือหลักพื้นฐานในการลงทุน: ความเสี่ยงสูง = ผลตอบแทนสูง
นโยบายของสถาบัน
การจัดการทรัพย์สินและการตัดสินใจในการลงทุนของบริษัทหรือหน่วยงาน มีผลต่อการกำหนด Yield เช่น การแจกจ่ายกำไรให้ผู้ถือหุ้น การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ หรือการพัฒนาด้านเทคโนโลยี
Yield หมายถึงอะไร และคำนวณได้อย่างไร
นิยาม Yield
Yield หรือ อัตราผลตอบแทน คือตัวเลขที่แสดงถึงผลประโยชน์ที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากการลงทุนในสินทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กำหนด ตัวเลขนี้มักแสดงในรูปของร้อยละต่อปี Yield มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ที่ลงทุน
สูตรการคำนวณ Yield
สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร สูตรพื้นฐานคือ:
Yield = ((ราคาปัจจุบัน – ราคาซื้อ) / ราคาซื้อ) × 100%
สูตรนี้มีประโยชน์ในการวัดผลตอบแทนที่แท้จริงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์
ตัวอย่างประเภท Yield ต่างๆ
การเปรียบเทียบ Yield ของสินทรัพย์ต่างประเภทช่วยให้ผู้ลงทุนมองเห็นภาพรวม และเลือกสินทรัพย์ที่ตรงกับเป้าหมายและความอดทนต่อความเสี่ยง
ประเภท Yield ที่พบเห็นทั่วไป
Dividend Yield - ผลตอบแทนจากเงินปันผล
Dividend Yield คำนวณจากสัดส่วนระหว่างเงินปันผลที่ได้รับและราคาหุ้นปัจจุบัน ตัวเลขนี้บ่งบอกถึงความสามารถของหุ้นในการสร้างรายได้ให้กับผู้ถือหุ้น
ตัวอย่าง: บริษัท X จ่ายเงินปันผลปีละ 15 บาท ราคาหุ้นในตลาดปัจจุบันอยู่ที่ 150 บาท
Dividend Yield = (15 / 150) × 100 = 10%
ผลลัพธ์หมายความว่า ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผล 10% ต่อปี
Stock Yield - ผลตอบแทนจากกำไรสุทธิ
Stock Yield แสดงถึงอัตราผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นได้รับจากกำไรของบริษัท โดยคำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นหารด้วยราคาหุ้นปัจจุบัน
ตัวอย่าง: บริษัท Y มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 8 บาท ราคาปัจจุบันของหุ้น 80 บาท
Stock Yield = (8 / 80) × 100 = 10%
ผู้ลงทุนทำความเข้าใจได้ว่ากำไรสุทธิสัมพันธ์กับราคาหุ้นที่ 10%
Bond Yield - ผลตอบแทนจากตราสารหนี้
Bond Yield บ่งชี้ถึงผลตอบแทนสัมบูรณ์จากการลงทุนในพันธบัตร โดยแสดงในรูปของอัตราร้อยละต่อปี เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญสำหรับนักลงทุนที่มุ่งเน้นรายได้คงที่
ตัวอย่าง: ผู้ลงทุนซื้อพันธบัตรมูลค่า 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ยกำหนดไว้ที่ 4% ระยะเวลา 10 ปี
Bond Yield = (40 / 1,000) × 100 = 4%
ผู้ลงทุนจึงได้รับดอกเบี้ย 4% ต่อปี
Mutual Funds Yield - ผลตอบแทนจากกองทุนรวม
Mutual Funds Yield คำนวณจากรายได้รวมของกองทุน (เงินปันผลจากหุ้นและดอกเบี้ยจากตราสารหนี้) หารด้วยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน
ตัวอย่าง: กองทุนรวม B มีรายได้รวม 120 บาท มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ 1,200 บาท
Mutual Funds Yield = (120 / 1,200) × 100 = 10%
ผู้ลงทุนในกองทุนรวมนี้จะได้รับผลตอบแทน 10%
Yield ในตลาดหุ้น - มุมมองลึก
Dividend Yield
Dividend Yield คำนวณโดยนำเงินปันผลทั้งหมดที่จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นในระหว่างปีมาหารด้วยราคาปัจจุบันของหุ้นแล้วคูณด้วย 100%
ตัวอย่างเช่น หากหุ้นมีราคาปัจจุบัน 200 บาท และจ่ายเงินปันผลรวม 10 บาทในระหว่างปี Dividend Yield จะเป็น (10 / 200) × 100% = 5%
Earnings Yield
Earnings Yield คำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นหารด้วยราคาปัจจุบันของหุ้น เมื่อ Earnings per Share คือกำไรสุทธิต่อหุ้นและราคาปัจจุบันคือราคาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
การเข้าใจ Stock Yield ช่วยให้ผู้ลงทุนประเมินว่าหุ้นมีราคาสมควรหรือไม่เมื่อเทียบกับกำไรที่สร้างได้ และช่วยในการตัดสินใจลงทุนอย่างมีเหตุผล
Yield vs Return - ความแตกต่างที่ต้องรู้
Yield และ Return เป็นศัพท์ที่มีความสัมพันธ์กัน แต่มีความหมายและการคำนวณที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ตารางเปรียบเทียบ
ประเภทสินทรัพย์ใดให้ผลตอบแทนสูงที่สุด
ผลตอบแทนสูงส่วนใหญ่มาพร้อมกับความเสี่ยงสูง สินทรัพย์ประเภทต่อไปนี้มีลักษณะนี้
หุ้น
หุ้นมีความเป็นไปได้ที่จะให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว แต่มีความเสี่ยงสูงในระยะสั้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีระยะเวลาลงทุนยาว เช่น หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีหรือหุ้นเติบโต
อสังหาริมทรัพย์
อสังหาริมทรัพย์นำเสนอผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยเฉพาะในตลาดที่มีความต้องการสูง อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาค่าบำรุงรักษา ค่าบริหารจัดการ และความผันผวนของตลาด
กองทุนรวม
กองทุนรวมมีความหลากหลายในประเภทและผลตอบแทน บางกองทุนให้ผลตอบแทนสูง บางกองทุนเน้นความปลอดภัย ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการการกระจายความเสี่ยง
ทองคำ
ทองคำมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ให้ผลตอบแทนปานกลาง มีความเสี่ยงต่ำ ปรากฏเป็นส่วนประกอบสำคัญในการกระจายพอร์ตโฟลิโอ
สกุลเงินดิจิทัล
สกุลเงินดิจิทัลมีศักยภาพให้ผลตอบแทนสูงมาก แต่มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่เข้าใจตลาดและมีความอดทนต่อความผันผวน
บทสรุป
Yield เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าใจและประเมินประสิทธิภาพของการลงทุนได้อย่างมีระบบ ไม่ว่าจะลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนรวม การคำนวณและการเปรียบเทียบ Yield ช่วยให้ผู้ลงทุนมองเห็นภาพรวมของผลตอบแทนที่คาดหวัง
ความหมายที่แท้จริงของ Yield คือการทำให้เงินทุนของผู้ลงทุนทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสร้างผลตอบแทนที่สัมพันธ์กับจำนวนทุนที่ลงไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง หรือการกระจายความเสี่ยงโดยหลากหลายประเภทสินทรัพย์ ผู้ลงทุนต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่พร้อมรับและระยะเวลาที่ตั้งใจลงทุน เพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้